Meg 2: The Trench กลับมาพร้อม เบน วีทลีย์ (Ben Wheatley) ผู้กำกับใหม่แต่ยังคงไว้ซึ่งอะไหล่เดิมทั้ง คลิฟ,คลิฟ เคอร์ทิส (Cliff Curtis) และ เพจ เคนเนดี้ (Page Kennedy) ในบทลูกไล่ของคลิฟ หรือกระทั่ง ชูหยา โซเฟีย ไช่ (Shuya Sophia Cai) ในบทเหมยอิง ลูกสาวของตัวละครนางเอกภาคแรก โดยสถานการณ์ในภาพยนตร์ภาคนี้ก็เกิดวิกฤติเมื่อแผนสำรวจมหาสมุทรของทีมคลิฟและ ดร. จิวหมิง (อู๋ จิง) น้องชายนางเอกภาคแรกดำลงไปยังร่องสมุทรและพบว่ามีคนลักลอบระเบิดหินใต้สมุทรจนทำให้ฉลามเม็กกะโลดอนตัวเขื่องและหมึกยักษ์หลุดออกมาและมุ่งหน้าสู่เกาะมหาสนุกเตรียมงาบผู้คน
บทภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยาย ‘The Trench’ ของ สตีฟ อัลเทน (Steve Alten) ผู้เขียน ‘The Meg’ ต้นธารของภาพยนตร์ภาคแรก โดยคราวนี้มันก็อาศัยความเป็นภาพยนตร์ภาคต่อในการไม่เล่าที่มาอะไรทั้งสิ้น เพราะคนดูรู้จักกับตัวละคร โจนาส เทย์เลอร์ ของคลิฟอยู่แล้ว และคราวนี้สิ่งที่โจนาสต้องเผชิญก็แค่ลงยานสำรวจและช่วยทีม ดร. จิวหมิงกับเหมยอิงให้ปลอดภัยโดยมีตัวละครสมทบที่ภาพยนตร์จะค่อย ๆ ฆ่าให้ตายตามกันไปเพื่อลดภาระในการเล่าเรื่อง ซึ่งด้วยเสน่ห์ของคลิฟก็ต้องยอมรับว่าเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมยังดูหนังได้
และต้องยอมรับแหละครับว่าถ้าถอดสมองดู..ภาพยนตร์ก็ทำออกมาได้สนุกสนานดี โดยสิ่งที่ผู้ชมต้องเตรียมตัวคือไม่ควรคำนึงถึงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นการออกมาของปลาหมึกยักษ์หรือกระทั่ง สแนปเปอร์ สัตว์เลื้อยคลานโบราณที่จู่ ๆ ก็มาโผล่บนเกาะ กระทั่งฉากในตัวอย่างที่เราเห็นคลิฟเอาขายันปากเม็กกะโลดอนก็น่าจะยืนยันความโม้แหลกของดูหนังได้เป็นอย่างดี ดังนั้นใครจะหาความสมเหตุสมผลภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์แน่นอนครับ
สิ่งที่แอบสังเกตได้คือบทภาพยนตร์ในภาคนี้เริ่มขาย “ความจีน” มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการเข้ามาของตัวละคร จิวหมิง ของ อู๋ จิง ที่มาเป็นแอ็กชันฮีโรฝั่งจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีดูมีเสน่ห์บนจอแบบไม่กลัวโดนคลิฟบังรัศมี หรือการใช้ ชูหยา โซเฟีย ไช่ กลับมารับบทเหมยอิง ก็ยืนยันได้ไม่น้อยว่านายทุนฝั่งจีนหวังจะดันเธอเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปให้ได้ เพียงแต่บทเหมยอิงของเธอยังถูกเขียนมาไม่มีมิติเท่าไหร่เลยอาจจะยังโดนคุมกำเนิดอยู่
รวมไปถึงการปรากฎตัวของเอ็กซ์ตร้านักท่องเที่ยวจีนบนเกาะมหาสนุก (Fun Island) และแอบมีประโยคที่บอกชาวโลกให้เห็นใจนักท่องเที่ยวจีนที่ทำงานลำบากมานานกว่าจะได้เที่ยวอีกด้วย จนทำให้ ‘Meg 2:The Trench’ มีภาพของความเป็นภาพยนตร์ลูกครึ่งฮอลลีวูดกับจีนผสมผสานกันอย่างกลมกล่อมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
และสำหรับคนไทยแล้วการดูหนัง ‘Meg 2:The Trench’ ดูจะเป็นภาพยนตร์ที่เอาใจคนบ้านเราไม่น้อยเลย หลังจากภาคแรกมาเปิดตัวโจนัสที่จังหวัดสมุทรปราการและเอาเพลง ‘Mickey’ ฉบับภาษาไทยเป็นเพลงเอนด์เครดิต มาภาคนี้ถึงกับยกกองมาถ่ายทำที่เกาะพาราไดซ์ จังหวัดภูเก็ต ในฉากใหญ่ท้ายเรื่อง และยังมีเพลง ‘That’s not my name’ เพลงต้นฉบับของวง The Ting Things ที่เอามาร้องใหม่โดย PIM เป็นฉบับภาษาไทย
แต่พ้นจากความโม้แหลกจนบันเทิงของภาพยนตร์แล้ว น่าเสียดายสิ่งที่ภาพยนตร์ทำได้ดีมากในภาพยนตร์ภาคแรกคือการสร้างจังหวะลุ้นระทึก (Thrill) กลับทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในภาพยนตร์ภาคนี้แม้จะมีฉากที่กดดันมาก ๆ อย่างฉากเดินใต้ทะเลฝ่าฝูงเม็กกะโลดอนกับฝูงปลาไหลมอเรย์ แต่จังหวะภาพยนตร์กลับไม่สามารถทำให้คนดูหนังลุ้นตามได้เท่าไหร่ และคุณภาพของงานวิชวล เอฟเฟกต์บางจุดก็ยังไม่เนียนเท่าไหร่โดยเฉพาะเหล่าสัตว์ประหลาดในภาพยนตร์ที่หลายซีนก็ยังดูลอย ๆ อยู่